สเต็กหมู สเต็กง่ายๆ ทำกินเองที่บ้านได้

มาอีกแล้ว สเต็กหมู เมนูง่ายๆแต่ดูไฮโซ ทำเองได้ ใช้เวลาไม่นาน ยากแค่การเตรียมวัตถุดิบสดๆเท่านั้น เช่น เนื้อหมูที่เราจะเอามาทำสเต็ก ก่อนหน้านี้จะซื้อตามตลาดสดทั่วไป เจอเนื้อหมูเหม็นบ้าง ไม่เหม็นบ้าง บางครั้งพอทำเสร็จแล้ว เนื้อหมูกระด้างบ้าง นุ่มบ้าง ทั้งๆที่เราก็ทำตามขั้นตอนเหมือนเดิมทุกครั้ง จนมาเจอซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ลองซื้อมาทำครั้งแรก ติดใจ ต่อมาครั้งที่สอง อืม..คุณภาพคงที่ ตั้งแต่นั้นมาถ้าคิดถึงสเต็ก เราจะไปซื้อเนื้อหมูที่นี่เลยล่ะ

วิธีทำสเต็กหมูง่ายๆ กินเอง

วัตถุดิบที่ต้องมีสำหรับทำสเต็กวันนี้

หมูทีโบน คือ เนื้อหมูสันนอกที่ตัดออกมาพร้อมกระดูกสันหลัง ซึ่งมองแล้วดูคล้ายตัว T นั่นเองค่ะ

เนื้อหมูที่ทำอาหารแล้วนุ่ม คือ เนื้อหมูที่มีเส้นไขมันขาวๆแทรกอยู่ ในเนื้อหมูสีแดงๆ แต่……

แต่ถ้าเป็นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ เท่าที่เราเคยซื้อมา เนื้อหมูที่ไม่มีไขมันแทรก ก็มีเนื้อนุ่มอร่อยได้เหมือนกันค่ะ

การทำสเต็ก ไม่ว่าจะเป็น สเต็กหมู, สเต็กไก่ หรือสเต็กปลา ก็ตาม เราต้องใส่ใจกับวัตถุดิบให้มากที่สุดค่ะ เพราะถัดจากเครื่องเทศที่ให้กลิ่น ความหอมและรสชาติบนผิวของสเต็ก ก็คือรสชาติแท้ๆของเนื้อสเต็ก ถ้าวัตถุดิบไม่ดี ไม่สดใหม่ รสชาติก็อร่อยแบบไม่เต็มที่นะคะ (นี่ยังไม่พูดถึงระยะเวลาการปรุงนะคะ) วัตถุดิบมีผลขนาดไหน? ต้องลองนึกถึงเมนูสเต็กในร้านดังกันก่อนค่ะ บางร้านจะมีระบุไว้ด้วยว่า เนื้อจากนิวซีแลนด์, เนื้อจากออสเตเรีย, เนื้อจากอเมริกา, เนื้อจากญี่ปุ่น, เนื้อไทยๆจากบ้านโพนยางคำ หรือเคยูบีฟ(KU Beef) เห็นไหมคะว่า มีหลากหลายแค่ไหน

สำหรับเนื้อหมู ไม่มีความหลากหลายเท่ากับเนื้อวัวหรอกค่ะ แต่เวลาเลือกซื้อ ก็ควรจะพิจารณาชิ้นเนื้อด้วยเช่นกัน ใช้นิ้วสัมผัสดูว่านิ่มไหม มีเส้นไขมันแทรกไหม ยิ่งถ้าเราซื้อจากแหล่งที่วางใจได้ในคุณภาพ ก็มั่นอกมั่นใจไปได้เยอะแล้วล่ะค่ะ ว่าต้องอร่อยแน่ๆ

ใบเบย์ลีฟ โรสแมรี่ ออริกาโน พริกไทยดำป่น และเกลือ หรือถ้าไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศ ใช้แค่เกลือและพริกไทยก็พอค่ะ เพราะทางต้นตำรับเขาก็ใช้แค่ 2 อย่างนี้ แต่เราอยากได้กลิ่นเครื่องเทศหอมๆเอง

ผักสำหรับทานคู่กับสเต็ก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร

การรับประทานผัก 5 สี วิตามินและแร่ธาตุต่างๆในผักแต่ละสี จะมีแตกต่างกัน ถ้าใน 1 วันเราสามารถทานได้ครบ 5 สี เราก็จะได้วิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่หลากหลาย โดยไม่ต้องหาอาหารเสริมมารับประทานให้เปลืองเงินในกระเป๋าเลยค่ะ

ผักสีเขียว – มีคลอโรฟิลล์ ช่วยในการต้านอนุมูอิสสระ และลูทีน ช่วยบำรุงสายตา เช่น บล็อคโคลี่ ผักกาดหอมห่อ(ผักกาดแก้ว) คะน้า ผักบุ้ง ตำลึง ถัวฝักยาว  ฯ

ผักสีขาว หรือสีน้ำตาล – มีสารอัลลิซิน ช่วยสร้างเซลล์ให้แข็งแรง ลดการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสสระ ลดความเสียงการเป็นมะเร็ง เช่น หัวหอมใหญ่ กระเทียม หัวไชเท้า ลูกเดือย ดอกแค ถั่วงอก ฯ

ผักสีแดง – มีสารไลโคปีน ลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก บำรุงหัวใจและทางเดินปัสสาวะ มีสารต้านอนุมูลอิสสระ เช่น มะเขือเทศ พริกหวานสีแดง หอมแดง บีทรูท ฯ

ผักสีเหลือง หรือสีส้ม – มีวิตามินซีสูง เบต้า-แคโรทืน ฟลาโวนอยด์ บำรุงหัวใจ สายตา หลอดเลือด เช่น ฟักทอง แครอท ข้าวโพด มะละกอ ส้ม กล้วยหอม ฯ

ผักสีม่วง – มีสารแอนโทไซยานิน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ยับยั้งเชื้ออีโคไลในระบบทางเดินอาหาร ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ  เช่น มะเชือเปาะม่วง มะเขือยาวม่วง ดอกอัญชัน ฯ

ขั้นตอนแรก เราต้องหมักเนื้อหมูก่อนค่ะ หมักด่วน คือ หมักแบบไม่เข้าตู้เย็น ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชม. แต่ถ้าอยากเข้าตู้เย็นก็ใช้เวลานานกว่านั้นค่ะ ใส่เครื่องเทศทุกอย่างที่เราเตรียมไว้ พร้อมกับเนยสดลงไปคลุกเคล้า (ที่ต้องส่เนยในขั้นตอนนี้ เพราะตอนทอดเราไม่ใช้เนยค่ะ)

จากนั้นก็มาเตรียมเครื่องเคียงสำหรับทานกับสเต็กของเรา ซึ่งเราจะมีมันบด และสลัดผักค่ะ

นำมันฝรั่งไปต้ม ใส่เกลือนิดหน่อย

เพิ่มความหอมด้วยชีส

เราใช้น้ำเกรวี่สำเร็จรูปค่ะ เป็นน้ำเกรวี่รสไก่

ผักบางอย่างไม่สามารถทานดิบได้ เนื่องจากพิษในตัวผัก เช่น แครอท เราก็นำมาลวกก่อนค่ะ ส่วนบล็อคโคลี่ ก็ควรลวกด้วยเหมือนกัน เพราะที่ดอกของบล็อคโคลี่ มีลักษณะซับซ้อน เหมาะแก่การสะสมของยาฆ่าแมลง

สลัดผักเสร็จแล้ว เอาเข้าตู้เย็น เพื่อความกรอบอร่อยค่ะ (แอบใส่แครอทเพื่อเพิ่มสีสีน)

จากนั้นก็เตรียมซอสสำหรับราดบนเนื้อสเต็ก

เห็ดแชมปิญอง

ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่เนย

ใส่เห็ดที่หั่นแล้ว

นำผงเกรวี่สำเร็จรูปละลายน้ำอุณหภูมิห้อง ตามส่วนผสมข้างซอง แล้วนำมาผัดให้เข้ากัน

รอจนเดือดก็ใช้ได้แล้วค่ะ

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการทอดหมูค่ะ หากระทะแบบนี้ไม่ได้ ก็ใช้เตาย่าง หรือกระทะเทฟลอนธรรมดาก็ได้ค่ะ

ตั้งกระทะให้ร้อน วางหมูลงทอด หาฝามาปิดกระทะเพื่อให้หมูสุกถึงเนื้อใน โดยด้านนอกไม่ไหม้ไปเสียก่อน

ใช้เวลาทอดแต่ละด้านประมาณ  3-4 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาของเนื้อ และใช้ไฟปานกลาง

ไม่ควรกลับด้านบ่อยๆ เพราะจะทำให้ลายสวยๆหายไป อิอิอิ แต่ถ้าอยากได้ลายตารางก็ต้องค่อยๆวาง อย่าเอาเนื้อหมูไปถูกับกระทะ ลายจะหาย

เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ ก็ลุยเลยค่ะ