ยำทูน่า (ปลาโอ) เมนูเพื่อสุขภาพ

ยำปลาทู ยำทูน่า ยำปลาทูน่าหรือยำปลาโอ มีเป็นเมนูอาหารที่มีขั้นตอนและเครื่องปรุงที่คล้ายกันค่ะ แต่ต่างกันที่ชนิดของปลาที่เราเลือก ซึ่งเราสามารถหามาปรุงอาหารได้ง่ายและสะดวก เมนูวันนี้เต็มไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย โปรตีนและไอโอดีนจากปลาทะเลที่มีไขมันต่ำ วิตามินจากผักที่เรานำมาเพิ่มรสชาติ และสีสันน่าทาน รวมทั้งสรรพคุณทางยาของตะไคร้ ที่ช่วยแก้ท้องอืดได้ อีกทั้งใบมะกรูดและหอมแดงก็เป็นสมุนไพรเช่นกันค่ะ ทำให้ยำทูน่าของเรามีสารอาหารและประโยชน์มากมายทีเดียว

เมนูประเภทยำสารพัดชนิด เป็นเมนูโปรดของคุณสาวๆที่ชอบอาหารรสจัด อร่อยไม่เลี่ยน แต่จากกระแสรักสุขภาพในปัจจุบัน ก็ทำให้เมนูยำเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคน ไม่ว่าจะหนุ่มหรือสาว แต่ขอให้ระวังด้วย ไม่ควรมีรสไม่จัดเกินไปนัก ไม่ว่าจะเค็ม เปรี้ยว และเผ็ด เพราะไม่ดีต่อกระเพาะลำไส้รวมทั้งตับใตก็ทำงานหนักด้วยค่ะ อร่อย(เกินพอดี)ในวันนี้ อาจจะลำบากกายในวันหน้านะคะ

เนื่องจากเราไปเที่ยวตลาดที่อยู่ใกล้ทะเล เราจึงได้ปลาโอสดๆตัวใหญ่ๆมาปรุงอาหารค่ะ คงเป็นเพราะปลาโอมีเนื้อที่ค่อนข้างแข็งกระด้าง จึงไม่ค่อยมีคนนิยมกินกันเท่าไหร่ ทำให้มีราคาถูกกว่าปลาชนิดอื่นพอสมควร และความสดจากที่ตลาดอยู่ใกล้ทะเล ทำให้เนื้อปลายังมีความหวานหอมอยู่มากทีเดียว

คุณสามีเป็นคนที่กินปลายากมาก ดูได้จากเมนูอาหารที่ผ่านๆมาของเรา เขาจะกินแต่ปาท่องโก๋ ^^ ไม่ใช่ๆ ปลาอินทรี ปลาทู ปลาข้างเหลือง ปลาทูน่ากระป๋อง ปลาซาร์ดีนกระป๋อง ปลาแมคเคอเรลกระป๋อง และปลาโอนี่ล่ะค่ะ เราก็สงสัยว่าทำไม เขาว่าปลาชนิดอื่นมันคาว แต่เราว่าปลาที่เขาชอบกินเนี่ยมันคาวกว่าปลาอย่างอื่นที่เราชอบกินอีกนะ เช่น ปลาเก๋า ปลากระพงแดง ปลากุเลา ปลาน้ำดอกไม้ ฯ

ก่อนที่เราจะเอาปลาโอมาปรุงอาหาร เราต้องมาจัดการปลาก่อนค่ะ ซึ่งเราจะเอามาทำให้สุกก่อนนำไปปรุงยำปลาโอ อีกอย่างคือเจ้าปลาโอเนี่ย เลือดจะเยอะมากๆ ซึ่งถ้าเราจะแบ่งเนื้อปลาสดเก็บไว้ทำเมนูอื่นๆ เราก็ต้องวุ่นวายกับการทำความสะอาดเขียง มีด จนกว่าเราจะกินมันหมด ดังนั้นเราจึงเอามานึ่งให้สุกก่อนค่ะ ป้องกันความแดงเถือกของเลือด ที่น่าสยดสยองด้วย ^^

วัตถุดิบ/เครื่องปรุง ยำทูน่า (ปลาโอ)

การนึ่งปลาให้สุก ทำให้สารอาหารในเนื้อปลา ไม่สูญเสียออกไปมากนัก ดีกว่าการ ต้ม และทอดค่ะ สักเกตได้จากปูทะเลค่ะ ถ้าอยากทานให้อร่อย อย่านำไปต้ม แต่ให้นำไปนึ่ง ความหอมและความหวาน ก็จะถูกเก็บรักษาไว้ภายในตัวปู ไม่หายไปกับน้ำต้มค่ะ

เราทาเกลือให้ปลาโอเล็กน้อยก่อนนำไปนึ่งค่ะ ทาบนผิวทั้งสองด้านเลยนะคะ

ปลาโอที่เราซื้อมานี้ ยังไม่ได้เอาเหงือกตับไตไส้พุงออกค่ะ และเราจะนำมานึ่งก่อน แล้วค่อยเลาะออกตอนที่สุกแล้ว เพราะเลือดปลาจะได้ไม่ไหลนองเลอะเทอะ ทั้งยังทำให้ปลาดูสวย พุงไม่ยุบ เมื่อสุกแล้วด้วยค่ะ

ตั้งหม้อนึ่งเตรียมน้ำไว้ เราดับกลิ่นคาวปลาด้วย ข่า และตะไคร้ค่ะ

เราจำเป็นต้องตัดปากและหางของปลาโอ หรือทูน่าออกเล็กน้อย เพื่อให้ใส่หม้อนึ่งได้พอดี (หมดสวยเลย) ถ้าใครมีหม้อนึ่งที่ใหญ่กว่าตัวปลา ก็ไม่ต้องตัดปากและหางแบบเราค่ะ และถ้ามีจานรองตัวปลาด้วยก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะเมื่อนึ่งปลาเสร็จแล้ว จะมีน้ำออกมาจากเนื้อปลานิดหน่อย เอามาผสมน้ำยำก็จะได้ความหวานมากขึ้นไปอีกค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ทำแบบเรานี่ล่ะค่ะ ปลาโอก็จะสุกเร็วขึ้นด้วย

เรานึ่งปลาโอ หรือทูน่าประมาณ 15 นาที จับเวลาตั้งแต่น้ำเดือดเลยนะคะ ระหว่างที่เรารอปลาสุก และให้คลายความร้อน เราก็มาจัดการกับเครื่องปรุงอื่นๆที่ใช้ปรุงยำของเรากันค่ะ

เนื่องจากเมนูปลาจะมีความคาวเป็นปกติ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นคาวเราก็ต้องใส่สมุนไพรลงไปเยอะๆค่ะ เพื่อดับกลิ่นคาว แถมสมุนไพรไทยๆเหล่านี้ยังมีสรรพคุณทางยาเยอะแยะมากมายด้วยค่ะ

สมุนไพรในชามนี้ ช่วยเจริญอาหาร ขับลม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดไขมันในเส้นเลือด ลดคลอเรสเตอรอล ฯ และอีกเยอะแยะมากมายเลยค่ะ ^^

ที่ขาดไม่ได้ในเมนูยำ น้ำมะนาวค่ะ

น้ำปลาดี และน้ำตาลทราย น้ำตาลทรายเราใส่นิดเดียวพอค่ะ ไม่ต้องการให้หวานโดด แค่เพิ่มความกลมกล่อมเท่านั้น

หอมแดง ล้างให้สะอาด และหั่นซอย

ตะไคร้ก็เช่นกันค่ะ ล้างให้สะอาดโดยเฉพาะคราบดิน อาหารที่เรากินสด ควรพิถีพิถันในการล้างเป็นพิเศษ เราจะแช่ผักด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูเจือจางเสมอค่ะ เพราะถ้าผักเหล่านั้นเราไม่ได้ปลูกเอง เราไม่รู้เลยว่า ขั้นตอนการปลูก และขั้นตอนการขนส่ง กว่าจะมาถึงมือเรานั้น เขาใส่อะไรให้ผักบ้าง และผักบางอย่าง สำหรับบางเมนู ก็ต้องกินสดถึงอร่อย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เสียเวลาล้างผักและแช่น้ำสักนิดดีกว่าค่ะ

การเตรียมตะไคร้เพื่อทำเมนูยำนั้น ต้องระวังส่วนโคนของตะไคร้ที่อาจจะแก่เกินไป ซึ่งเราจะเอาเล็บจิกส่วนปลายโคน ถ้าแข็งตัดออกค่ะ และส่วนโคนใบถ้าหั่นแล้วมีความสากและมองเห็นเป็นเส้นขน ก็ให้ลอกออกค่ะ ลอกไปทีละชั้นๆ และหั่นดู ถ้าหั่นไปเรื่อยๆแล้วเป็นเส้นขนอีก ก็ลอกออกอีกค่ะ กินได้จนเกือบหมดก้านเลยค่ะ (เราตัดก้านตะไคร้จนสุดส่วนที่แตกเป็นใบนะคะ)

วัตถุดิบต่อมาคือพริกขี้หนูสวน เราชอบความเผ็ดหอมค่ะ เมนูยำแบบไทยๆ ต้องเจ้าพริกชนิดนี้เลย ซอยแล้วเอาลงแช่ในน้ำมะนาวที่เราคั้นไว้ เพื่อไม่ให้พริกขี้หนูซอยของเราเปลี่ยนเป็นสีดำค่ะ เดี๋ยวจะดูไม่น่ากิน

และพริกขี้หนูสีแดง ใส่ลงไปเพื่อเพิ่มสีสันค่ะ พริกขี้หนูสวนของเราปลูกเอง แดงไม่ทันกิน ขอเพิ่มสีสันนิดหน่อยค่ะ ^^ ซอยพริกเสร็จแล้ว แช่ในน้ำมะนาวเช่นกันค่ะ

และผักชีค่ะ ใครชอบผักชีฝรั่งก็ใส่ได้ค่ะ จะได้ความหอมอีกแบบ ซึ่งเรามีแต่เจ้าผักชีไทยที่คุ้นเคย

ใบมะกรูด หั่นเป็นฝอยๆค่ะ ระวังตอนซอยด้วยนะคะ ระวังทั้งนิ้ว และระวังขนาดของเส้นที่หั่นค่ะ เพราะถ้าหั่นเป็นเส้นใหญ่เกินไป ตอนกินจะทิ่มเหงือกได้ค่ะ

เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ปลาโอ หรือทูน่าของเราที่นึ่งสุกแล้วก็คลายความร้อนพอดี จนมือสามารถสัมผัสได้ เราก็นำมาลอกหนังออกค่ะ

ที่ต้องลอกหนังออก เพราะคุณสามีไม่กินหนังปลาทุกชนิด ยกเว้น หนังปลากระป๋อง (คนเรื่องมาก) ^^

ปลาโอ หรือทูน่าที่นึ่งสุกแล้ว จะแกะเนื้อและก้างง่ายมากๆค่ะ แค่แซะเบาๆก็ร่อนแล้ว

เราแยกเนื้อปลาโอเป็นชิ้นใหญ่ๆไว้ก่อน เพื่อเอาก้างตรงกลางออกก่อน รวมทั้ง หัวปลา เหงือก และตับไตไส้พุง

เมื่อแยกออกมาแล้วก็มาจัดการ แกะก้างเล็กๆที่อยู่ตรงกลางของชิ้นปลาค่ะ และแบ่งเนื้อปลาโอ หรือทูน่าเก็บไว้ทำเมนูอื่นด้วย

เราแยกส่วนท้องไว้ทำยำ ส่วนเนื้อก้อนไว้ทำแกงค่ะ เพราะส่วนท้องเนื้อจะนิ่มอร่อย เอามายำกินแล้วเนื้อไม่กระด้าง ส่วนเนื้อปลานั้นจะแข็งกระด้าง ต้องเอามาทำแกงกะทิ ถึงจะอร่อยค่ะ

ขั้นตอน/วิธีทำ ยำทูน่า (ปลาโอ)

เมื่อจัดการแบ่งเนื้อปลาเก็บเข้าตู้เย็นเรียบร้อย ก็มาจัดการยำของเราต่อค่ะ เอาเนื้อส่วนท้องมายีเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้น้ำยำและกลิ่นสมุนไพรเข้าถึงเนื้อปลา จะได้กินอร่อยไม่คาวค่ะ

เอาเนื้อปลาที่เตรียมไว้ใส่ลงในอ่างผสม ใส่เครื่องปรุงและผักต่างๆที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันค่ะ ยกเว้นผักชีที่เราจะใส่สุดท้าย เพื่อไม่ให้ช้ำ จะดูไม่น่ากินค่ะ เมื่อคลุกเคล้าเสร็จแล้ว ชิมรสชาติดูขาดเหลืออะไรให้ปรุงเพิ่มตอนนี้เลยค่ะ

เมื่อปรุงรสและชิมจนได้รสชาติที่ต้องการแล้ว จากนั้นใส่ผักชี และคลุกให้เข้ากันเบาๆ เพื่อไม่ให้ผักชีช้ำค่ะ

เสร็จแล้วก็จัดใส่จาน พร้อมกินกันเลยค่ะ

เมนูยำปลาโอ หรือทูน่า อาจจะดูรูปเยอะยุ่งยาก แต่ความจริงยากแค่ตอนเตรียมปลาค่ะ เพราะต้องแกะเนื้อปลาและแยกก้างออกไป แต่เราว่า เมนูนี้ง่ายกว่ายำปลาทูเยอะเลย เพราะปลาโอตัวใหญ่แกะก้างได้ง่ายกว่าปลาทูที่ตัวเล็ก

ใครไม่มีปลาโอ หรือทูน่า จะใช้ปลาซาบะ ปลาทู  ปลาอะไรก็ได้ที่เราหาได้ง่ายๆค่ะ หรือจะเปลี่ยนเป็นหอยแครง หอยแมลงภู่ ก็ใช้เครื่องยำแบบเดียวกันได้ค่ะ

เมนูยำทูน่า (ปลาโอ) น่ากินดีไหมคะ เมูง่ายๆ และใช้เวลาทำไม่นาน แต่รสชาติอร่อยแบบครบรส เรียกน้ำย่อยเพิ่มความเจริญอาหาร ให้กับมื้ออาหารวันหยุดสำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แล้วอย่าลืมคอยติดตามเมนูอาหารอร่อยๆ ที่เราจะนำมาเสนอกันต่อๆ ไปด้วยนะคะ ^^